วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บันทึกการเดินทาง ของลมหายใจ(มะเร็ง)ที่ยังอยู่ ตอนที่ 3 ใจสู้รึเปล่า



โลกสมัยปัจจุบันมันเปลี่ยนไปเยอะมาก การเข้าถึงหมู่คนที่นิยมหรือมีความชอบอะไรที่เหมือน ๆ กันมันง่ายแม้จะไม่รู้จักกันข้อมูลข่าวสารข้อแนะนำต่าง ๆ ทำได้เพียงแค่คลิ๊กเดียว หลังจากผ่านทริปแรกมาไม่นาน ผมวางแผนขอปั่นอีกสักทริปแบบเช้าไปเย็นกลับ จากนั้นก็จะเป็นทริปแบบค้างคืน เริ่มหาข้อมูลจาก www.thaimtb.com ไปเจอเส้นทางที่ไม่ไกลจากบ้าน และเป็นทางที่เราคุ้นเคยพาลูกสาวไปเที่ยวเล่นน้ำทะเลบ่อย ๆ พร้อมมีเนินเขาให้ทดสอบกำลังขาด้วย (http://.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=56&t=758301) เลยเป็นที่มาของตอน "ใจสู้รึเปล่า"

จัดแจงวางเส้นทางให้เรียบร้อย รวมถึงเรื่องของสัมภาระซึ่งได้จากประสบการ์ณของทริปแรก ทริปที่สองนี้เลยไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไร หาวันที่จะไปทันที ไปลงตัวที่วันที่ 25 สิงหาคม 2556 (เพิ่งผ่านทริปแรก 2 สัปดาห์ ด้วยความห้าวของตนเอง) จุดหมายปลายทางที่ว่านี้คือ เขากรมหลวง อยู่ในฐานทัพเรือสัตหีบ เหมือนเช่นเคยผมออกเดินทางประมาณตีห้า มีการวางเรื่องของจุดหยุดพักต่าง ๆ ไว้ด้วย วันนี้อากาศไม่ค่อยจะเป็นใจเท่าไรนัก ออกเดินทางไม่นานแดดก็เริ่มส่องประกายออกมาทำให้ใจนึกไปว่าวันนี้คงเป็นอะไรที่โหดแน่ ๆ
ผมใช้เส้นทางสุขุมวิท ปั่นเข้าพัทยา เลือกใช้ทางเลียบถนนสุขมวิทซึ่งเป็นถนนเส้นในขนานกับทางรถไฟสายตะวันออก จะไปบรรจบกับถนนสุขมวิทอีกครั้งที่แยกศาลพัทยาใต้ จากนั้นก็ปั่นไปผ่าน Mimosa บ้านอำเภอ แวะที่นี้เพิ่มพลังตอนเช้าสักหน่อย ชายหาดบ้านอำเภอผ่านหลายครั้งโดยรถยนต์ พยายามหาทางเข้าแต่ไม่เจอสักทีได้จักรยานนี้แหละช่วย
ชายหาดที่นี่สวยพอได้มีร้านค้าตั้งร่มและเตียงผ้าใบคล้ายกับบางแสนแต่ไม่มากเท่า ร้านอาหารที่มีชื่อ (เค้าก็มีชื่อทุกร้านนั้นแหละ) ลองเสริช์หาใน google ร้านอาหารแถวหาดบ้านอำเภอจะเห็นร้านนี้ขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ คือ ร้านประภาคารบ้านอำเภอ หากใครได้มีโอกาสมาแถวนี้ลองแวะดูนะครับ (เอาเป็นว่าไม่คิดค่าโฆษณาแล้วกัน) ผมไม่ได้กินข้าวที่นี่นะ ของผมต้องเป็นศาลาริมหาด เสร็จสรรพจากข้าวเช้าเพิ่มพลัง แสงแดดเริ่มโผล่มาให้เห็นมาแล้ว ออกเดินทางต่อ ผ่านสวนนงนุช (แค่ทางเข้านะ) ช่วงนี้ปั่นยาว ๆ อย่างเดียว แวะเติมเชื้อเพลิงน้ำ 1 ครั้ง
เส้นทางที่วางไว้ตั้งใจว่าจะเข้าทางค่ายทหารก่อนถึงสัตหีบ แต่มีทหาร (ค่ายทหารก็ต้องมีทหารซินะ) ขอตรวจบัตรประชาชนก่อน เลยต้องเปลี่ยนเส้นทางเพราะไม่ได้เอาเอกสารอะไรไปเลยมีเพียงตังค์ม้วน ๆ ไว้สองร้อยบาทเท่านั้น ต้องปั่นเข้าไปในสัตหีบอีกหน่อย เป็นทางเข้าฐานทัพเรือสัตหีบ ช่วงแรกของเส้นทางง่ายมากเป็นทางเรียบทะเลไปเรื่อย ๆ แต่พอจะขึ้น เขากรมหลวง นี้ซิ มีทั้งสิ้นสามเนินแบบชันขึ้นอย่างเดียว "กำลังที่เราคิดว่าแน่ ต้องแพ้แค่เนินเดียว อีกสองเนิน เข็นอย่างเดียวครับท่าน ใจนะสู้แต่ขามันไม่เอาด้วยเลยต้องจอดไม่ต้องแจว" แค่เข็นถึงยอดก็เป็นที่พอใจแล้ว ระยะทางแค่ 2 กม. ใช้เวลาทั้งสิ้นเกือบ 45 นาที ในการปั่น ไม่ซิต้องบอกว่าเข็นขึ้นเขา ผมนั่งพักหายใจให้ทั่วปอดประมาณเกือบ 30 นาที ก่อนที่ขยับตัวเปลี่ยนไปจุดอื่น ส่วนขาลงไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น เป็นอันว่าทริปนี้จบลงด้วยการที่จะต้องกลับไปประเมินตนเองในการปั่นขึ้นเขาใหม่ (แต่ก็ได้เทคนิคของตนเองสำหรับปั่นขึ้นเขาว่าต้องทำอย่างไร คงต้องมีโอกาสมาล้างตาที่นี่อีกสักครั้ง แบบขาไม่แตะพื้นก่อนจะออกศึกใหญ่)
ช่วงกลับผมเลาะเรียบชายทะเลสัตหีบ หาดเตยงาม และพักผ่อนเพิ่มพลังอีกสักครั้งก่อนจะออกเดินทางกลับ ลมแรงทะเลคนก็น้อย (แหงหล่ะใครจะมาเล่นน้ำทะเลช่วงบ่ายโมงแดดเปรี้ยงขนาดนี้) ครุ่นคิดว่าจะให้แดดอ่อนกว่านี้สักสามสี่โมงค่อยออกเดินทางกลับ แต่คำนวณแล้วว่าระยะทางอีกไม่น้อย สู้กับแดดนี้แหละ บ่ายสองโมงกว่า ๆ ขึ้นเบาะแล้วปั่นไปเรื่อย ๆ ดีกว่า ผมใช้เส้นทางถนน 331 ปั่นผ่านทางเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ไร่องุ่นฯ เขาชีจรรย์ แต่ไม่ได้แวะ ก็มีเพียงแค่หยุดพักดื่มน้ำ 2-3 ครั้ง ถึงบ้านห้าโมงเย็นไม่ได้มืดเหมือนกับทริปแรก รวมระยะทางทั้งสิ้น 137 km. 

"เส้นทางให้ไปยังมีอีก แต่ชีวิตไม่รู้จะไปให้ถึงทั้งหมดรึเปล่า แต่ก็จะทำดำเนินต่อไปเท่าที่ลมหายใจยังอยู่"

7 ความคิดเห็น:

  1. 5555 ระยะทาง น้อยไปมั้ยครับ ???

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พอก่อนท่านเคล็ดจากทริปแรก

      ลบ
  2. - ตอนเขาเรียกตรวจบัตรประชาชน ทำไมไม่เอาธงชาติไทยให้ดูละครับ 555+

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมก็พูดไทยแต่ขอดูอย่างเดียว

      ลบ
  3. เป็นกำลังใจให้ในทุกๆเส้นทางนะคะพี่ต๋อง

    ตอบลบ
  4. ชอบประโยคสุดท้ายที่สุดเลยค่ะ ฝีมือถ่ายรูปก็ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ

    ตอบลบ